ถ้าเปรียบเทียบกับ Kingdom ss1-ss2 , Ashin of the North ใช้วิธีเล่าเรื่องต่างกันโดยสิ้นเชิง ถึงแม้แกนเรื่องและการตีความซอมบี้จะเหมือนกัน แต่ในภาคนี้เน้นไปที่แรงกดดันของตัวละคร “อาชิน” ที่ถูกพัฒนามาเรื่อยๆจนกลายเป็นความแค้นสุดหยั่งถึงในตอนท้าย วิธีดำเนินเรื่อง การแสดง และโปรดักชัน ทำให้เราในฐานะคนดูเชื่อและมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคน “อาชิน” ได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจ ตอนนั่งดูผมถึงกับพูดกับตัวเองว่า “ถ้าเราเจอแบบเธอก็คงทำแบบเดียวกัน”
Copy and paste this URL into your WordPress site to embed
Copy and paste this code into your site to embed