Spiritfarer อินดี้เกมแสนอบอุ่นที่อบอวลด้วยความเศร้า เราจะได้รับบทเป็น Stella ผู้รับหน้าที่เป็น Spiritfarer (ขอแปรว่าผู้ส่งวิญญาณ) ต่อจาก Charon ที่ถึงเวลาต้องจากไป…ของเขา….หน้าที่ของผู้ส่งวิญญาณคือต้องเติมเต็มคำขอสุดท้าย คลี่คลายสื่งที่ค้างคา และเมื่อพวกเขาพร้อม ก็ถึงเวลาบอกลา ณ สถานที่ที่เป็นทั้งจุดจุดสิ้นสุดและเริ่มต้น
ระบบเกม
พื้นหลังของเกมจะเป็นโลกหลังความตาย เหล่าวิญญาณที่ขึ้นมาบนเรือของ Spiritfarer จะแสดงตัวตนออกมาในรู้ร่างของสัตว์ที่เป็นต้วแทนของตนสมัยยังมีชีวิต เราจะได้ออกเรือสำรวจความลึกลับของทะเล รวบรวมทรัพยากรเพื่อสร้างและอัปเกรดเรือ ทำฟาร์ม ขุดเหมือง ตกปลา เก็บเกี่ยว ทำอาหาร ทอผ้า และสิ่งสำคัญที่สุดคือการคอยทำตามคำขอและชี้นำเหล่าวิญญาณ จนพวกเขาพร้อมที่จะจากไปอย่างสงบ
สิ่งที่ดีงาม
ภายในเกมเราสามารถกอดผู้โดยสารวิญญาณของเราได้ และด้วยงานภาพที่มีเอกลักษณ์ ลายเส้นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เพลงประกอบที่เข้ากัน และจังหวะของเสียงประกอบ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ผู้เล่นสามารถรับรู้ถึงถึงความอบอุ่นที่ส่งออกมาผ่านการกอดได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ข้อติเล็กน้อยที่มองข้ามได้
สำหรับผู้เล่นที่ไม่ชอบการอ่านเยอะๆ อาจจะไม่เหมาะกับเกมนี้เท่าไหร่ เพราะบทสนทนาของตัวละครเยอะมาก
เริ่มเกม
หลังจากที่ Charon ได้ส่งต่อหน้าที่ Spiritfarer ให้กับเรา วิญญาณคนแรกที่จะได้พบก็คือ Gwen ผู้ที่ทำหน้าที่คล้ายๆ คนสอนวิธีเล่นเกมให้กับเรา ทั้งวิธีอัพเกรดเรือ แนะนำตัวละครสำคัญต่างๆ และระหว่างนั้นเกมก็จะค่อยๆ เผยเรื่องราวของเธอออกมาทำให้เราได้รู้จัก และผูกพันกับตัวละครตัวนี้
—Spoil—
Gwen กวางสาวผู้แตกสลาย
ในโลกของวิญญาณ Gwen จะปรากฏตัวในร่างของกวางสีน้ำตาลแดง ซึ่งเธอเปรียบเสมือนพี่สาวของ Stella เมื่อครั้งยังมีชีวิต ,Gwen เติบโตมาในครอบครัวคนชั้นสูง ความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อนั้นไม่ค่อยดีนัก เธอมักใช้คำพูดแดกดันเป็นเสมือนเกาะป้องกันตัวเอง ถึงกระนั้นเธอก็แสดงออกถึงความชื่นชมในความใจดีของ Stella อยู่บ่อยๆ
“
ฉันกำลังนึกถึงพ่อของฉันตอนที่เขาตายจากไป ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่โศกเศร้า ไม่เกลียดชัง ไม่โล่งอก ไม่รู้สึกอะไรเลย มันไม่มีความสำคัญอะไรเลยกับฉันเลย แต่มันกลับทำให้ร้องให้อยู่ 3 วัน จนฉันต้องยกเสื้อสเวตเตอร์ตัวหลวมโคล่งที่ฉันถักเมื่อเดือนก่อนให้เธอ แม้แม่จะไม่เห็นด้วย แต่มันก็ทำให้เธอก็รู้สึกดีขึ้น ฉันสงสัยมานานแล้วว่าทำไมเธอถึงต้องเศร้าขนาดนั้น สุดท้ายฉันก็คิดได้ว่า เธอเสียใจแทนฉัน เธอรับรู้ความรู้สึกของฉันที่ฉันไม่สามารถรู้สึกได้
“
หลังจากใช้ชีวิตหลังความตามบนเรือลำนี้ได้ระยะหนึ่ง Gwen ก็ต้องประหลาดใจที่รู้สึกได้ว่า คฤหาสน์ริมทะเลสาบของครอบครัวเธออยู่แถวๆ นี้ ในโลกวิญญาณแห่งนี้ คฤหาสน์ที่เธอพยายามอย่างหนักที่จะลืมมัน เธอไปปรึกษากับ Stella และจากการเดินทางร่วมกันมานาน ทำให้เธอตัดสินใจได้ว่าเธอพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับอดีต
“
ฉันอาจจะเสียใจและโศกเศร้าที่นั่น แต่มันก็แค่เพียงระยะสั้นๆ
ฉันอยากจะไปที่นั่น ไปที่นั่นกับเธอ Stella
“
การกลับไปเยี่ยมบ้านในวัยเด็กที่ Villa Maggoire ,ที่นั่น Gwen ได้พบกับกล่องดนตรีเก่าของเธออีกครั้ง มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด มันย้ำเตือนให้เธอนึกถึงเรื่องราวเลวร้ายที่เคยผ่าน
“
มันนานแค่ไหนแล้วตั้งแต่ที่เราเคยมาที่นี่ด้วยกัน แม่ไม่เคยกลับมาที่นี่อีกตั้งแต่พ่อตายจากไป ให้ตายสิ ฉัน รู้สึก มากกว่าที่ฉันคิดเอาใว้
ฉันรักบ้านนี้มาก อาจจะมากพอๆ กับที่เกรียดมัน
Stella ฉันไม่คิดว่าฉันสามารถเข้าไปข้างในบ้านนั้นได้ แม้จะมีเธออยู่ข้างๆ ก็ตาม เธอช่วยเข้าไปข้างในและถ้าเจอกล่องดนตรีเก่าๆ ช่วยเก็บมันมาให้ฉันด้วยนะ
“
ตัดกลับมาที่เรือ ,กล่องดนตรีเก่าทำให้ Gwen รู้สึกอยากอยู่คนเดียวเพื่อใช้ความคิด และคืนนั้นเธอก็ได้แอบหนีจากเรือ และกลับมาที่บ้านวัยเด็กของเธออีกครั้ง
“
ฉันขอโทษที่ทำแบบนี้ แต่ละวันบนเรือมันน่าหดหู่ ฉันอธิบายไม่ได้เหมือนกัน ฉันแค่ต้องการให้มันจบเธอรู้ไหม เพื่อที่จะตัดสินใจเลือกว่าจะจากไปอย่างไร โดยไม่ทำให้ตัวตนของฉันถูกพรากไป ฉันอ่อนแอฉันขอโทษโอ๊!! ประชดหนะ ให้ตายสิ ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันเห็นแก่ตัวชะมัด บางครั้งฉันหวังว่าฉันจะเป็นได้เหมือนเธอนะ แต่ไม่หละ ฮ่าฮ่าฮ่า…
ให้ตายเถอะ กอดฉันเดี๋ยวนี้
“
หลังจากกอดกัน Gwen กล่าวขอบคุณ Stella และทิ้งท้ายประโยคว่า “เธอเป็นคนดีเสมอ Stella” และตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะจากไป ,และแล้วเรือก็เริ่มออกเดินทางสู่ The Everdoor ประตูบานสุดท้ายของเหล่าวิญญาณที่พร้อมจะจากไป
“
เอาหละ เรามาถึงแล้ว ฉันรู้อยู่แล้วว่าเวลานี่จะมาถึง ไม่ช้าก็เร็ว
เธอจะอยู่เคียงข้างฉันใช่ไหม เพื่อนรัก
“
Gwen จะให้ไฟเช็คเก่าของเธอที่เธอแอบซ่อนมันใว้ในก่องดนตรีกับ Stella เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนการจากลา และเป็นเสมือนตัวแทนของเธอเมื่อเธอจากไปแล้ว